เสริมคางอันตรายไหม

วิธีการทำศัลยกรรมเสริมคาง ปัจจุบันที่แพทย์ศัลยกรรมส่วนใหญ่ตามรงพยาบาลเสริมความงาม หรือคลินิกทำ พบว่ามีอยู่ร่วมกัน 2 แนวทาง หมายถึงวิธีฉีดไขมันที่คาง หรือใช้สารฟิลเลอร์ แม้กระนั้นวิธีการแบบนี้จะไม่คงอยู่ถาวร ด้วยเหตุว่าไขมันและสารฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองด้านใน 3-5 ปี สำหรับแนวทางที่สองเป็น แนวทางเสริมคางด้วยซิลิโคน จะเป็นการผ่าตัดเล็ก โดยใช้ซิลิโคนลักษณะเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก มาเหลาปรับทรงตามความเหมาะสม แล้วเอามาใส่บริเวณคาง และหากจะถามว่าเสริมคางอันตรายไหม ต้องขอบอกเลยว่า การเสริมคาง มีความปลอดภัยค่อนข้างจะสูง เป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ทำไปแล้วสามารถอยู่ได้ถาวรถ้าเกิดว่าไม่มีปัญหาเบี้ยวเอียง หรือต้องการเอาออก ก็สามารถอยู่ได้ตลอดกาลเลย

ปัจจุบันทางคลินิกเสริมความงามต่าง ๆ ได้พัฒนาตัวเอง เพื่อให้รับมือกับการแข่งขันกัน แต่ละคลินิกจึงต้องเซฟตัวเอง โดยการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ดังนั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณ ที่จะเลือกคลินิกที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับการทำศัลยกรรม โดยสามารถดูได้จาก ปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้

แนวทางเลือกสถานพยาบาลศัลยกรรมผ่าตัด เสริมคาง ที่เยี่ยมที่สุด

  • เลือกสถานพยาบาลที่ตามมาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการ สะอาด ปลอดภัย สถานพยาบาลควรจะเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน ตามกฎกระทรวงสาธารณสุข มีการตรวจสอบสถานพยาบาลก่อนเปิด เครื่องมืออุปกรณ์ที่ครบถ้วน ความสะอาดด้านในสถานพยาบาลย่อมเป็นสิ่งที่จำ ต้องพิจารณา มีห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ เพื่อลดการรับเชื้อที่อาจจะมีการเกิดขึ้นได้ รวมทั้งวัสดุกู้ชีพแม้เกิดกรณีรีบด่วน
  • แพทย์ผู้ให้การดูแลรักษาควรมีความเชี่ยวชาญ การศัลยกรรมเกี่ยวกับใบหน้า ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ จำต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญ รวมทั้งมีประสบการณ์มีใบรับรองจากแพทยสภา ว่ามีความสามารถแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดศัลยกรรมด้านหัตถการได้
  • ก่อนทำศัลยกรรม ควรมีการพูดคุยกับแพทย์เพื่อรู้จุดเด่น ข้อด้อย ขั้นตอน การเสี่ยง เมื่อสามารถยอมรับได้แล้วก็ค่อยไตร่ตรองทำ ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องเต็มใจตอบทุกคำถาม
  • มีการให้บริการที่ดี คลินิกควรจะมีการให้บริการที่ดี พูดจาดี บริเวณใบหน้ายิ้มแย้ม ให้ความเอาใจใส่กับลูกค้าทุกคนอย่างเสมอภาค เที่ยงธรรม ช่วยให้ผู้ที่มาใช้บริการรู้สึก บรรเทา ไม่มีความรู้สึกวิตกกังวล
  • มีรีวิวให้ดูมากมาย มีรีวิวผลของการรักษา ก่อนทำ-หลังทำ เพื่อเป็นตัวช่วยทำให้เรามีความคิดเห็นว่า มีคนที่เคยทำศัลยกรรมจริง ๆ และผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง

การเสริมคางจะแบ่งได้เป็น 2 แบบ ดังต่อไปนี้

การเสริมคางจากด้านนอกช่องปาก

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางจากด้านนอกช่องปาก เป็นการผ่าตัดเปิดแผลรอบ ๆ ใต้คาง ยาวโดยประมาณ 2 ซม. โดยแพทย์สามารถปรับรูปคางได้หลายองศา รวมทั้งสามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้ถูกต้อง ชัดเจน รวมทั้งยังสามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้ ลดโอกาสสำหรับการบิดเบี้ยวเอียงได้ดิบได้ดีขึ้น ซึ่งจุดเด่นของการเสริมคางแบบแผลนอกปากหมายถึงดูแลออกจะง่าย แผลมีขนาดเล็ก บวมน้อย พักฟื้นไม่นาน แต่ว่าการเสริมคางแบบเปิดแผลข้างนอก อาจจะก่อให้เกิดรอยแผลเป็นไปได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา 1-3 เดือนกว่ารอยแผลเป็นจะหายเอง แต่ว่าถ้าหากป้ายยาลดรอยแผลเป็นร่วมด้วยก็จะสามารถช่วยให้รอยแผลหายเร็วขึ้น

การเสริมคางจากข้างในช่องปาก

การศัลยกรรมแนวทางแบบนี้ เป็นการผ่าตัดเปิดแผลด้านในช่องปาก ตรงรอบ ๆ เหงือกข้างในกับริมฝีปากด้านล่าง ให้มีความยาวราว ๆ 2 ซม. แล้วศัลยแพทย์จะผ่าแยกเยื่อห่อหุ้มรอบ ๆ ขอบข้างล่างของคางออก แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดิบพอดีกับตำแหน่งที่ปรารถนา ต่อไปก็เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ซึ่งแนวทางเสริมคางแบบแผลในปากเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมสูง เพราะเหตุว่าไม่ทำให้มองเห็นรอยแผลข้างนอกที่เกิดจากการผ่าตัด เหมาะสมกับผู้ที่มีรอยแผลนูนง่าย (คีลอยด์) แต่ว่าหลังการผ่าตัดจำต้องดูแลแผลในปากเป็นพิเศษ เพื่อปกป้องแผลติดโรคจากน้ำลายหรือเศษอาหาร รวมทั้งควรระมัดระวังไม่ให้คางกระแทก จนกระทั่งซิลิโคนเขยื้อนไม่ถูกตำแหน่งได้

การเสริมคางเหมาะสมกับใคร?

  • การเสริมคางเหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างของบริเวณใบหน้าไม่สมดุลเช่น
  • คนที่มีคางเล็กมากเกินความจำเป็นคางหดสั้นเข้าไปด้านใน
  • คนที่มีโครงหน้าไม่ได้รูปคางไม่ได้ส่วน
  • คนที่มีบริเวณใบหน้าสั้นสัดส่วนคางไม่เข้ารูปกับสัดส่วนบริเวณใบหน้าส่วนอื่น

การตระเตรียมก่อนการศัลยกรรมเสริมคาง

  • เตรียมร่างกายให้แข็งแรง
  • งดเว้นอาหารเสริมหรือยาที่มีคุณลักษณะเรื่องการแข็งตัวของเลือด ดังนี้คุณจำเป็นที่จะต้องแจ้งรายละเอียดแก่แพทย์ถึงยาและก็อาหารเสริมรวมถึง สมุนไพรที่คุณรับประทานอยู่
  • รับประทานอาหารให้อิ่มก่อนเข้ารับการศัลยกรรม เนื่องจากหลังการศัลยกรรมแล้วมักรับประทานอะไรมิได้มาก
  • แปรงฟัน บ้วนปากให้สะอาด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • ถ้าหากมีโรคประจำตัว ควรจะแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการรับการผ่าตัด

ข้อจำกัดของการเสริมคาง

การเสริมคาง ผู้ที่อายุน้อยกว่า 17 ปี ยังมาสมควรทำ เพราะกระดูกยังไม่เจริญเต็มที่ ที่กระดูกยังคงมีต่อเนื่องได้บ้างในบางบุคคล ในขณะที่กระดูกควรจะปิดได้แล้วเมื่อวัน 15 ปี ในทางตรงกันข้ามผู้ที่อายุมากกว่า 55 ปีก็ควรจะพิจารณาถึงเหตุเรื่องความแข็งแรงของกระดูกที่รองรับซิลิโคน ที่อาจทำให้ส่งผลต่อการคงอยู่รวมทั้งรูปร่างของการเสริมคาง ในอนาคต