การเสริมคางเป็นการแก้ปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางทูม คางเบี้ยวได้เป็นอย่างดี และการเสริมคางเป็นการนำซิลิโคนที่มีมาตรฐานและเป็นซิลิโคนชนิดเดียวกันกับซิลิโคนเสริมจมูก มาเหลาและปรับแต่งทรงตามความเหมาะสมของโครงหน้าของแต่ละบุคคล ซึ่งบางคนทำคางออกมาแล้วถูกใจดูสวยและเป็นธรรมชาติก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับบางคนทำคางแล้วเป็นก้อน ดูแข็งเหมือนเอาปูนมาฉาบก็ต้องเสียเงินเสียเวลาไปแก้คางใหม่ เพราะการเสริมคางให้เข้ากับหน้าเป็นสิ่งที่เรียกว่านิพพานเลยก็ว่าได้ เพราะบางคนเสริมคางมาที่เหมือนกับเจ้าหญิงที่สวยจนจำแทบไม่ได้ แต่บางคนเสริมคางมาที่หน้าเหมือนแม่มดใจร้าย และการเสริมคางสำหรับสาว ๆ ก็มักจะมีคำถามเกิดขึ้นมากมายอย่างเช่น เสริมคางนอนตะแคงได้ไหม เสริมคางเจ็บไหม เสริมคางราคาเท่าไหร่ วันนี้เราจาคุณไปหาคำตอบกันพร้อมแล้วเราไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
เสริมคางนอนตะแคงได้หรือไม่
เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนต้องการคำตอบมาก ๆ กับคำถามที่ว่าเสริมคางนอนตะแคงได้ไหม ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่ได้กำหนดท่านอนแบบตายตัวแต่สิ่งที่เราจะต้องระวังเป็นพิเศษในเวลานอนก็คืออย่านอนกดทับคาง เพราะจะทำให้มีอาการเจ็บคางมากขึ้น และคำตอบก็คือการนอนตะแคงถ้าไม่ได้ไปกดทับในตำแหน่งที่ฉีดก็ไม่เป็นอะไรเมื่อฟิลเลอร์กลมกลืนไปกับเนื้อเยื่อปกติของผิวเรามีความคงตัวมากขึ้นไม่เปลี่ยนรูปไม่เสียทรงก็จะสามารถนั่งนอนได้ทุกท่าได้เลย
เสริมคางเจ็บไหม
การเสริมคางเป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่งซึ่งระหว่างการผ่าตัดจะมีการฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เรารู้สึกเจ็บ แต่เมื่อเสริมคางมาแล้วและฤทธิ์ยาชาหมดก็จะมีอาการปวดเล็กน้อย แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่เจ็บ สรุปก็คือการเสริมคางไม่ได้เจ็บมากอย่างที่คุณคิด บางคนก็ไม่เจ็บเลย อยู่ที่คนด้วยแหละว่ามีความอดทนสูงมากแค่ไหน
เสริมคางราคาเท่าไหร่
การเสริมคางนั้นจะมีราคาที่แตกต่างกันไปตามคลินิกที่คุณเข้าใช้บริการ ไม่สามารถบอกได้ตายตัวว่ามีราคาเท่าไหร่ หากคุณต้องการเสริมคาง และต้องการรู้ราคาก็ต้องไปสอบถามคลินิกที่คุณจะไปเสริมคาง เพราะแต่ละคลินิกมีราคาการให้บริการที่แตกต่างกัน ทางที่ดีก่อนที่จะเสริมคางก็ต้องตรวจสอบราคาให้ดีก่อนทำจะได้เตรียมเงินไว้ถูก
ทำไมต้องเสริมคาง
การเสริมคางสามารถปรับรูปหน้าของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี บางคนมีคางหลุบ คางสั้น แต่พอเสริมคางมาแทบจำไม่ได้เลยก็มี การเสริมคางสามารถเปลี่ยนรูปหน้าของแต่ละคนได้ การเสริมคางในปัจจุบันจึงเป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การทำศัลยกรรมรูปแบบอื่น ๆ
การเตรียมตัวก่อนเสริมคาง
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
- เนื่องจากการเสริมคางเป็นการผ่าตัดเล็ก ดังนั้นงดน้ำและงดอาหาร 6-8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด
- งดอาหารเสริมรวมถึงสมุนไพรบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา โสม กลูโกชามีน เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วยอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด หากใครที่มีโรคประจำตัวสามารถทานยาได้ปกติ ห้ามหยุดยาเอง ยกเว้นยาที่ระงับการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน , Warfarin ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย
- ก่อนผ่าตัดเราจะต้องทำการตรวจสภาพร่างกายอย่างละเอียดและต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว การแพ้ยา ยาที่รับประทานเป็นประจำ เป็นต้น
ขั้นตอนการเสริมคาง
ขั้นตอนในการเสริมคางนั้นแพทย์จะใช้ยาสลบแก่คนไข้ และการเสริมคางจะใช้ซิลิโคนแท่ง ลักษณะคล้ายยางแต่มีความยืดหยุ่น โดยนำซิลิโคนมาเหลาให้ได้รูปทรงพอดีกับคางของคุณ หลังจากนั้นศัลยแพทย์จะทำการเปิดผิวบริเวณด้านในปาก บริเวณด้านในของริมฝีปากล่าง ตั้งแต่ส่วนของเหงือกลงไปจนถึงส่วนของกระดูกคางด้านหน้า และทำการฝังและยึดซิลิโคนลงในตำแหน่งที่ได้วัดระยะอันเหมาะสมเอาไว้แล้ว จากนั้นจึงเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ที่จะสลายไปเองได้ภายใน 10 วันแต่หากเป็นกรณีที่ทำการเสริมคางไปพร้อม ๆ กับศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า แพทย์จะสร้างรอยผ่าตัดที่บริเวณใต้คางเพื่อความสะดวกต่อการศัลยกรรมทั้งสองชนิด ซึ่งรอยแผลที่อยู่บริเวณนี้ก็สามารถซ่อนตัวจากสายตาได้เป็นอย่างดี
หลังเข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมคางจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร
- เมื่อเสริมคางมาแล้วให้ประคบเย็นทันที โดยนำผ้าขนหนูชุบน้ำไปแช่ในช่องแช่แข็งแล้วนำมาประกบอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 48 ชั่วโมง และเมื่อครบกำหนดในการประคบแล้วอย่าทำอะไรกับคางทั้งนั้นให้ปล่อยไว้เฉย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคางแรง ๆ เพราะอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้
- หลังจากผ่าตัดมาแล้วให้นอนยกหัวสูงเป็นเวลา 2 วันเพื่อลดอาการบวม เพราะอาการบวมจะมีมากในช่วงเวลา 2-4 วันแรกแต่ไม่ต้องตกใจเพราะเป็นเรื่องปกติของการเสริมคางอยู่แล้ว
- ไม่ควรทานอาหารรสจัด อาหารหมักดอง และอาหารร้อน หรืออาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวในช่วงแรกของการเสริมคาง
- บ้วนปากบ่อย ๆ ด้วยการผสมน้ำเกลือและน้ำยาบ้วนปากที่เจือจาง จากนั้นก็บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออีกรอบหนึ่ง
- ห้ามใช้ลิ้นดุนไหมในปากเล่นเด็ดขาด
- ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และอย่าซื้อยามาท่านเองและยาที่สามารถทานได้ก็คือ ยาแก้ปวด ลดบวม ยาฆ่าเชื้อ ในกรณีมีอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เป็นผลข้างเคียงมาจากการทานยาแก้อักเสบ Cloxacilline ก็ให้ทำการหยุดยาหรือใช้ Amoxicilline500mg ทาน 1 เม็ดหลังอาหาร 4 เวลา (เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน) ทานยาต่อเนื่องทั้งหมด 7 วัน และจะสามารถทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติจากการทานยาและอย่าลืมแจ้งแพทย์ทุกครั้งหากมีอาการแพ้ยาหรือมีโรคประจำตัว
ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังจากการเสริมคาง
- ริมฝีปากรู้สึกชา เนื่องจากมีแผลผ่าตัดอยู่ด้านในริมฝีปากล่าง ซึ่งอาการจะค่อย ๆ บรรเทาลงเองเมื่อเวลาผ่านไป
- คางและบริเวณรอบ ๆ มีอาการบวม เจ็บ
- การรับความรู้สึกที่บริเวณคางเปลี่ยนไป อาจเป็นได้ทั้งเพียงชั่วคราว หรือเกิดขึ้นถาวร
- ซิลิโคนเลื่อนออกจากตำแหน่ง อันเกิดจากการกระทบกระเทือนที่บริเวณใบหน้า เกิดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด