ฉีดโบหน้าเรียว มีข้อดีหลังฉีด และขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง

การฉีดโบท็อกซ์โบท็อกซ์ คือ นวัตกรรมลดริ้วรอยเพื่อปรับใบหน้า โดยใช้สารสกัดโบทูลินัม ท็อกซินเอ ปัจจุบันเป็นนวัตกรรมความงามซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าเต่งตึง และกระชับ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการให้ผิวใบหน้าไม่หย่อนคล้อย กล้ามเนื้อผิวหน้ามีความกระชับ ดูเรียวสวยเต่งตึง และรูขุมขนตื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด

ผลของการฉีดโบหน้าเรียว แพทย์จะนำโบท็อกซ์มาฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อบริเวณกรามเพื่อทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ผลที่ตามมาหลังการฉีด Botox คือ กล้ามเนื้อกรามจะเล็กลง ทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นนั่นเอง

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์

แพทย์ใช้น้ำเกลือปลอดเชื้อในการผสมโบท็อกซ์แล้วหลังจากนั้นแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กในการฉีดจึงทำให้รู้สึกเจ็บน้อยมาก และสามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติหลังการฉีดโดยไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล โดยยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายหลังการฉีด 7-14 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์

  • โบท็อกซ์เป็นสารที่ออกฤทธิ์ชั่วคราวอยู่ประมาณ 4-6 เดือนหลังฉีดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถเลือกหรือตัดสินใจฉีดแต่ละครั้งตามความพอใจ
  • การปรับรูปหน้าด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ราคาไม่สูงเหมือนการทำศัลยกรรมปรับรูปหน้าแบบอื่นๆ
  • เห็นผลไว และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น คนไข้สามารถออกไปข้างนอกหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติค่ะ
  • ทำให้กล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณนั้นคลายตัวและตึงขึ้น เช่น รอยเหยี่ยวย่นบนหน้าผา รอยตีนกาบริเวณหางตาและร่องแก้ม
  • ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณส่วนกรามคลายตัวและลดการทำงานเกิดการฝ่อตัวลงและทำให้หน้าดูเรียวเล็กและกระชับขึ้น
  • ความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า

ฉีดโบหน้าเรียว  ฉีดโบลดกรามเจ็บไหม

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

  • ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ ผู้เข้ารับบริการจำเป็นจะต้องเข้าพบแพทย์เสียก่อน เพื่อทำการตรวจผิวหนังและปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่จะฉีด ดังนั้นผู้เข้ารับบริการจึงอาจต้องมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้
  • งดรับประทานยา หรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น
  • ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาแอสไพริน ยาวาร์ฟาริน วิตามินซี น้ำมันตับปลาแปะก๊วย
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
  • งดรับประทานอาหารประเภทหมูกระทะ ปิ้งย่างที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
  • งดรับประทานอาหารที่เผ็ดมาก ๆ หรือแสบร้อนจนหน้าแดง
  • งดรับประทานอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  • งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ไม่ควรประคบร้อน

การทำงานของโบท็อกซ์

หลังจากแพทย์ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในส่วนที่ต้องการรักษาแล้ว สารโบท็อกซ์จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือจะเรียกได้อีกอย่างว่าเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว จึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว ซึ่งระยะเวลาที่จะเห็นผลหลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้วจะอยู่ที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะอยู่ได้นาน 3-6 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ หดตัวจนกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ที่ฉีดด้วย

ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

  • หลังฉีดทันที ไม่ควรจับ ลูบคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา
  • ภายใน 4 ชั่วโมง หลังฉีดใหม่ๆ ยังไม่ควรไปนอนราบ หรือนอนตะแคง เพราะในช่วงชั่วโมงแรก เป็นช่วงการซึมของยาเข้ากล้ามเนื้อ
  • ภายใน 4 ชั่วโมงแรก หลังฉีดโบท็อกซ์ มีความสำคัญมาก ๆ ต้องบริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อย ๆ เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อที่ต้องการให้ออกฤทธิ์มากที่สุด
  • หลังฉีดแต่งหน้า ทาแป้ง ทาครีมได้ตามปกติ เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ สามารถทำ Treatment ได้ตามปกติ (ยกเว้น Laser, RF และ Ionto ต้องรอ 2 สัปดาห์)

ฉีดโบหน้าเรียว  รีวิวฉีดโบลดกราม pantip

ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์ขึ้น ได้แก่

  • การใช้โบท็อกซ์ในปริมาณสูงเกินไป
  • การฉีดโบท็อกซ์ที่ถี่เกินไป

ดังนั้นผู้เข้ารับบริการจึงควรฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่น้อยที่สุด และไม่ควรฉีดเกินปริมาณสูงสุดที่กำหนดให้ฉีดได้ นอกจากนี้ การฉีดแต่ละครั้งยังควรห่างกันมากกว่า 12 สัปดาห์ด้วย

ส่วนผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ทั่วไป

โดยอาจเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญของแพทย์ หรือเกิดจากผู้รับบริการปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์ไม่ถูกต้อง

  • อาจมีอาการปวดศีรษะหรือปวดในบริเวณที่ฉีด
  • เคี้ยวอาหารได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่แข็งและเหนียว เพราะกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์มามีความหนืดมากขึ้น
  • ข้อต่อของขากรรไกรไม่แข็งแรงเท่าเดิม
  • ใบหน้าทั้งสองข้างไม่สมมาตร หรือปากเบี้ยวเวลายิ้ม
  • สำหรับผู้ที่แต่เดิมมีเนื้อแก้มเยอะ เมื่อฉีดโบท็อกซ์จนหน้าเรียวขึ้นแล้ว อาจทำให้เนื้อแก้มห้อยคล้อยลงมา