โบท็อกหน้าเรียว จะฉีดหรือไม่ฉีดดี เรามีคำตอบ ข้อดีข้อเสียมาฝาก

หลาย ๆท่านกำลังประสบปัญหามีโครงหน้าใหญ่ มีแก้ม ทำให้รูปหน้าดูไม่ค่อยสมส่วน ซึ่งฉีดโบท็อกหน้าเรียว เป็นวิธีลดแก้มปรับรูปหน้าเรียวที่ได้ผลดีมาก ๆ ถือเป็นตัวช่วยให้กับสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ก่อนตัดสินใจควรศึกษาหารายละเอียดเพื่อเป็นข้อมูลในการนำตัดสินใจเพื่อจะได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน

โบท็อก คืออะไร

การฉีด Botox คือ วิธีการเสริมความงามเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวหรือลดริ้วรอยแห่งวัยโดยการฉีดสารที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เข้าไปที่ผิวหนัง ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและสร้างความมั่นใจ ให้กับผู้มีปัญหาได้เป็นอย่างดี และยังเป็นสารจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งซึ่งจะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัว

ฉีดโบท็อกซ์ ดีไหม

สาว ๆ หลายคนอาจจะยังคงสงสัยว่านอกจากช่วยให้ใบหน้าดูเต่งตึงและลดริ้วรอยแล้ว การฉีดโบท็อกหน้าเรียว นั้นยังช่วยเรื่องอะไรอื่น ๆ อีกบ้าง? ซึ่งความจริงแล้วการฉีดโบท็อกซ์ยังมีประสิทธิภาพช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึก ริ้วรอยแห่งวัย ยกกระชับผิวหน้าหย่อนคล้อย เพิ่มความเต่งตึงให้ผิวหนัง เห็นผลทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องศัลยกรรม ซึ่งหลังจากการฉีดโบท็อกซ์แล้วตัวยาจะจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือน เมื่อกล้ามเนื้อไม่เกร็งตัวแล้ว โบท็อกซ์ยังช่วยส่งผลปรับลดขนาดกล้ามเนื้อ ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น หลังจากทำการรักษา 10 นาที กล้ามเนื้อของคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย ร่องลึกตื้นขึ้นคลายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อจะเล็กลง ทำให้ผิวบริเวณนี้เรียบตึง การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถช่วยคงสภาพอยู่ได้นาน

บทความแนะนำ การฉีดฟิลเลอร์ จาก Rattinan.com

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อก

พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมงแรก หลังฉีด เพื่อให้ยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

1. หลังการฉีด 4 ชั่วโมงแรกควรหลีกเลี่ยงการก้มหน้าหรือนอนราบ
2. อย่านวด กด หรือกระทำการอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษาเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังการรักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อค หรือนวดหน้า
3. งดการอยู่ในที่ร้อนเช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน หรือการออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ ในช่วง 1 สัปดาห์ หลังฉีด
4. สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูรุนแรง
5. สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้ โดยรอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 1-7 วัน
6. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปอย่างน้อย 3-7 วัน

วิธีการดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

1. นอนอย่างถูกวิธี โบท็อกจำเป็นต้องใช้เวลาในการทำงานและเซ็ตตัว ฉะนั้นหลังฉีดโบท็อกซ์แล้วบางอย่างจึงต้องหลีกเลี่ยงหรือละเว้น และทำอย่างระมัดระวัง สำหรับการนอนนั้นใน 24 ชม. แรกห้ามนอนตะแคง ควรนอนหงายและเลือกใช้หมอนหนุนหัวที่สูง รวมถึงใน 3 – 4 ชม. แรกเป็นอย่างต่ำก็อย่าเพิ่งเผลอนอนราบ หรือยังไม่นอนเลยจะดีที่สุด เพราะสารโบท็อกที่ฉีดจะไหลไปที่อื่นได้
2. ห้ามนวดเด็ดขาด อีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้โบท็อกไหลไปยังบริเวณส่วนอื่นของกล้ามเนื้อได้เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเลือกฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี หลังฉีดแล้วต้องจำไว้ว่าอย่านวด คลึง จับ บีบ กด ใด ๆ ทั้งสิ้น อย่างน้อยก็ต้องทิ้งระยะหลังการฉีดให้ได้มากกว่า 7 – 10 ชม. จะแน่ใจได้ดีที่สุด
3. หลีกเลี่ยงความร้อน เรื่องนี้ควรเลี่ยงทั้งก่อนฉีดและหลัง ฉีดโบท็อก อย่างน้อยก็สัก 2 สัปดาห์ เพราะความร้อนมาก ๆ และนาน ๆ อาจทำให้สารโบท็อกซ์กระจายตัวและสลายตัวเร็วก่อนกำหนดได้นั่นเอง ซึ่งตามปกติอายุของโบท็อกหลังถูกฉีดแล้วจะคงอยู่ประมาณ 3 – 4 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณในการฉีดด้วย แต่หากเจอความร้อนมาก ๆ เข้าใบหน้าเรียวเต่งตึงของเราอาจหย่อนคล้อยได้ง่ายกว่ากำหนดก็เป็นได้
4. ประคบเย็น ไม่ว่าจะฉีดโบท็อกซ์ ระหว่างคิ้ว หน้าผาก โหนกแก้ม หรืออื่น ๆ โอกาสที่จะมีอาการบวมแดงในช่วงแรก ๆ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกคน การดูแล