ศัลยกรรมหน้าเรียว ปรับโครงสร้างหน้า ด้วยวิธีการทางการแพทย์

สาว ๆ ทุกคนย่อมต้องการมีใบหน้าที่เรียวสวยเข้ารูป ทำให้เป็นจุดสนใจของผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จึงสนใจการทำศัลยกรรมหน้าเรียวเพื่อตอบโจทย์ให้กับสาว ๆ ได้ดีที่สุด จึงต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อเป็นรายละเอียดในการตัดสินใจได้ดีมากขึ้น มีมากมายหลานวิธีที่จะทำให้คุณมีใบหน้าที่เรียวได้รูป ถือเป็นสิ่งที่สาว ๆ ต้องตัดสินใจเพื่อให้ใบหน้าไม่ได้รูป กลับมาสวยใสตามแบบที่ต้องการ

ศัลยกรรมโครงหน้า คืออะไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

การศัลยกรรมโครงหน้า (Facial Contouring Surgery) เป็นการผ่าตัดแก้ไขโครงหน้าที่มีลักษณะผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด หรือบิดเบี้ยวจากอุบัติเหตุ และการศัลยกรรมที่ผิดพลาดในครั้งก่อน ให้กลับมาเข้ารูปสวยตามมาตรฐานสัดส่วนทองคำ หรือตามรูปแบบที่เจ้าของใบหน้าต้องการ โดยวิธีผ่าตัดปรับเปลี่ยนรูปหน้านั้นมีมากมากหลายแขนง

ศัลยกรรมหน้าเรียว ทำได้กี่วิธี

1. ฉีดโบท็อกซ์

ถือเป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม สำหรับการฉีดสาร Botulinum Toxin เพื่อช่วยลดกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังให้คลายตัวและปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง เพราะนอกจากวิธีนี้จะไม่ต้องเจ็บตัวและเสียเวลาพักฟื้นแล้ว ยังเห็นผลลัพธ์ชัดเจนของรูปหน้าได้อย่างชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ แต่ก็มีข้อเสียอยู่ว่าหลังจากทำการฉีดจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน เหมาะกับคนที่ปัญหาเกี่ยวกับไขมันบริเวณใบหน้าหรือมีเนื้อแก้มที่ค่อนข้างเยอะ

2. ร้อยไหม

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยปรับให้รูปหน้าของคุณเรียวเล็กได้ โดยการนำไหมละลายที่มีขนาดความหนาและความยาวแตกต่างกันออกไปมาร้อยหรือสอดลงไปใต้ผิวให้เป็นแนวเดียวกับกล้ามเนื้อ หรือร้อยไหมแบบสานกัน เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้ใบหน้าเรียวและตึงกระชับมากยิ่งขึ้น วิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย

3. เมโสแฟต

นับเป็นวิธีที่มาแรงใกล้เคียงกับการฉีดโบท็อกซ์เลยทีเดียว สำหรับการทำเมโสแฟตที่ช่วยเร่งการสลายไขมัน ลดปัญหาเซลลูไลต์ส่วนเกินบนใบหน้าได้อย่างเยี่ยมยอด ได้แก่ บริเวณคางและแก้ม โดยใช้วิธีการฉีดสารสกัดจากถั่วเหลืองและวิตามินหลายชนิด จนทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการตึงกระชับ และทำให้ใบหน้าดูสวยได้รูปมากกว่าเก่า เหมาะสำหรับคนหน้าใหญ่ หน้ากลม และมีแก้มเยอะ แต่อาจมีผลข้างเคียงอย่าง อาการเจ็บและรอยฟกช้ำบ้างหลังการฉีดเกิดขึ้นได้ในบางราย

4. ฟิลเลอร์เสริมคาง

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้หน้าคุณเรียวยาวขึ้นได้ โดยการใช้สารเติมเต็ม หรือ ฟิลเลอร์ฉีดเสริมเข้าไปที่บริเวณคาง เพื่อสร้างมิติให้รูปหน้าเดิมได้รูปและเพิ่มความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน-1 ปี ก็จะค่อย ๆ สลายไปเอง วิธีนี้จะเหมาะกับคนหน้ากลมและมีคางสั้น

5. ผ่าตัดโหนกแก้มและกราม

สำหรับคนที่มีกรามใหญ่หรือมีกระดูกขากรรไกรใหญ่มาแต่กำเนิด วิธีนี้สามารถลดเหลี่ยมหรือมุมที่เคยเห็นเด่นชัดให้แคบและเรียวขึ้นได้ สำหรับวิธีแรก คือ การผ่าตัดโหนกแก้ม โดยใช้การกรอกระดูกเพื่อลดความสูงของกระดูกใบหน้าได้เล็กน้อย และวิธีที่ 2 คือการผ่าตัดกราม โดยใช้การตัดแต่งมุมกระดูกขากรรไกรภายในช่องปากตามความเหมาะสมของรูปหน้าโดยมีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการผ่าตัด และเมื่อผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยก็จะช่วยลดโหนกแก้มและกรามให้เล็กเรียวสวยมากยิ่งขึ้น

บทความแนะนำ ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก จาก Rattinan.com

ข้อดี ข้อเสียของการศัลยกรรม

ข้อดี

จะช่วยปรับรูปหน้าของคุณให้เรียวเล็กลงได้ ช่วยแก้ปัญหาโหนกแก้มใหญ่ คางตัด คางเหลี่ยม และกรามใหญ่ การผ่าตัดโดยการตัดแต่งเหลากระดูกใบหน้านี้ เพียงครั้งเดียวก็จะทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปได้อย่างมาก ทาให้หลายคนตัดสินใจทาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ศึกษาผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเราได้ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว

ข้อเสีย

เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ ทาให้คุณอาจต้องเสียเวลาในการพักฟื้นนาน รวมถึงระยะเวลาในการดูแลฟื้นฟูตัวเองอีกเป็นเวลาถึง 2-3 เดือน อีกทั้งการทาศัลยกรรม V-Line นั้นยังเป็นการทาศัลยกรรมที่ยังใหม่ในประเทศไทย ศัลยแพทย์ในคลินิกบางแห่งนั้นยังไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำศัลยกรรมได้ และถ้าหากทาศัลยกรรมมาแล้ว รูปหน้าไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ การแก้ไขก็เป็นไปได้ยากเช่นเดียวกัน เช่นการเหลาโหนกแก้มเพื่อให้ใบหน้าดูเล็กลง อาจทำให้หน้าดูหย่อนคล้อยลงจากเนื้อแก้มส่วนเกินที่ไม่ได้แก้ไข ส่วนการตัดเหลากระดูกขากรรไกรอาจทำให้ใบหน้าดูเรียวแหลมเหมือนจิ้งจก ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้จะทาให้ใบหน้าดูแปลกประหลาด และขาดมิติ