ลดแก้มหน้าเรียว มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง วิธีไหนได้รับความนิยมมาก

สาว ๆ หลายคนได้รับปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าที่ไม่ได้รูปทรง หน้ากลม ยิ้มแล้วแก้มเยอะ จึงทำให้ไม่มีความมั่นใจในการพบปะผู้คน ทำให้ภาพลักษณ์มาน่ามอง จึงต้องหาวิธีทำอย่างไรที่จะทำให้ใบหน้าของสาว ๆ หน้าเรียวเข้ารูป เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้เป็นอย่างดี

วิธีลดแก้มที่ได้รับความนิยม

1.ลดแก้มด้วยการฉีด Meso Fat (เมโสแฟต)

Meso Fat (เมโสแฟต) คือ วิธีการที่แพทย์ใช้การฉีดตัวยาในกลุ่มของ Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, Amino acid หรือ Minerals สารเหล่านี้เป็นสารสกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด โดยจะฉีดเข้าสู่ผิวหนังลึกเข้าไปในชั้นไขมัน และสามารถสลายออกจากร่างกายได้ เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เมื่อฉีดสารสำคัญเข้าไปในจุดที่ต้องการลดไขมันแล้ว สารนี้จะช่วยสกัดการสะสมของไขมันและทำให้ไขมันเหล่านี้สลายตัวออกมา ช่วยให้เลือดและระบบต่อมน้ำเหลืองไหลเวียนสะดวกยิ่งขึ้น เนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ มีความแข็งแรงและกระชับขึ้น โดยไขมันที่สลายออกมานั้นจะอยู่ในรูปของไขมันเหลว และถูกขับออกมาทางปัสสาวะกับทางอุจจาระ

  • ข้อดีของการฉีด Meso Fat ลดแก้ม

ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ยังไม่มีการรับรองผลอย่างชัดเจน แต่การทำ Meso Fat ก็สามารถช่วยขจัดไขมันส่วนเกินและปรับรูปหน้าช่วยลดแก้ม หรืออวัยวะให้สมส่วนดูดีได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีแต่ไม่สามารถลดไขมันได้ด้วยวิธีอื่น

  • ข้อเสียของการฉีด Meso Fat ลดแก้ม

บางรายอาจมีการแพ้สารที่ฉีดหรือเกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด ผิวหนังบริเวณที่ฉีดมีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดรอยช้ำ เกิดแผลเป็นและอาจเป็นโรคชั้นไขมันอักเสบ แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนายากลุ่มเมโสแฟต เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ลดแก้มหน้าเรียว ทำยังไง

2.ลดแก้มด้วยวิธีการ ดูดไขมันลดแก้ม

ดูดไขมันลดแก้ม เทคโนโลยีในการกำจัดแก้มโดยไปสลายไขมันและดูดออกในครั้งเดียว โดยไม่จำเป็นต้องกลับมาทำอีกหลายครั้ง เป็นนวัตกรรมการดูดไขมันในปัจจุบันสามารถทำในพื้นที่เล็ก ๆได้ ไม่ว่าจะเป็น แก้มป่อง เหนียงใต้คาง  ปีกเสื้อใน โดยเกิดความพกช้ำ ระบมน้อย เสียเลือดน้อยมาก

  • ข้อดีของการดูดไขมันลดแก้ม

หากทำกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะภายหลังการดูดไขมันผิวหนังเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น คนไข้สามารถฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนานได้ใบหน้าที่ดูเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ข้อเสียของการดูดไขมันลดแก้ม

หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจทำให้เนื้อเสียหาย เนื้อเยื่อเกิดการบาดเจ็บ จนเกิดการอักเสบได้ หรือ ผิวหนังไม่เรียบเนียนผิวหนังเป็นคลื่น ๆหลังการผ่าตัดได้

3.ลดแก้มด้วยวิธีการ ออกกำลังกาย

การออกกำลังการเพื่อลดแก้ม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้วิธีจากธรรมชาติ ซึ่งการออกกำลังกายที่ช่วยลดแก้มนั้น ก็คล้ายกับการที่เราออกกำลังกายปกติทั่วไปเพื่อเผาผลาญพลังงาน และไขมันที่ถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกายก็จะถูกดึงมาใช้งานและทำให้ไขมันส่วนเกินลดลงไป การออกกำลังกายเพื่อลดแก้มนั้น เราต้องเน้นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อคอเป็นประจำ เช่น นอนลงบนที่นอนสูงจากพื้นเล็กน้อย โดยนอนให้ไหล่อยู่ที่ขอบเตียงเงยคอลงไปที่พื้นช้า ๆ แล้วเกร็งคอตึง หรือ นั่งหลังตรง เงยหน้าจนสุดจนคอรู้สึกตึง ทำปากจู๋แล้วค้างท่าไว้สักครู่ แล้วคลายท่า ทำซ้ำ 2 เซต เซตละ 20 ครั้ง

  • ข้อดีของการออกกำลังกายลดแก้ม

เป็นวิธีที่เราทำเองได้ที่บ้าง ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และมีความปลอดภัยแน่นอน เนื่องจากเป็นวิธีการลดแก้มแบบธรรมชาตินั้นเอง

  • ข้อเสียของการออกกำลังกายลดแก้ม

เมื่อเป็นวิธีธรรมชาติ ดังนั้นเวลาก็มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง การที่จะลดแก้มด้วยการออกกำลังกายนั้นต้องใช้เวลา และระเบียบวินัยในการทำที่ค่อนข้างนาน อีกทั้งช่วยลดได้แค่ไขมัน แต่ไม่ได้การันตีว่าจะหายไปนานแค่ไหน ไม่เหมือนการฉีด Meso Fat LLD Fat หรือ fat bomb ที่ทำแล้วไขมันจะสลายหายไปเลย

4.ลดแก้มด้วยวิธีการ ตัดกระพุ้งแก้ม

การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มเพื่อลดแก้มนั้น เป็นวิธีหนึ่งในการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงอย่างถาวร โดยแพทย์จะผ่าตัดลดขนาดแก้มโดยการนำไขมันบริเวณกระพุ้งแก้มออก  ปัญหาไขมันส่วนเกินบนใบหน้าเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในปัจจุบัน ส่งผลให้รูปหน้าดูกลม แก้มเยอะ จนทำให้สูญเสียความมั่นใจ จนต้องเอาผมลงมาปิดแก้มตลอดเวลา

  • ข้อดีของการผ่าตัดกระพุ้งแก้ม

ช่วยลดแก้ม เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และเนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็กจึงไม่มีแผลเป็น ภายนอก แผลภายหลังผ่าตัดหายเร็ว

  • ข้อเสียของการผ่าตัดกระพุ้งแก้ม

แม้การผ่าตัดกระพุ้งแก้มจะช่วยลดแก้มอย่างได้ผล แต่ก็มีความเสี่ยงในการเลือดออก บวม ช้ำ หลังการผ่าตัด การติดเชื้อที่แผลหลังการผ่าตัด รวมถึงความเสี่ยงในการที่เส้นประสาทใบหน้าได้รับการกระทบกระเทือนทำให้มุมปากตกได้ และความเสี่ยงในการที่ท่อน้ำลายได้รับการกระทบกระเทือน แต่ความเสี่ยงที่ว่ามานี้จะลดลง หากรับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และดูแลตนเองทั้งก่อนและหลังรับการผ่าตัดเป็นอย่างดี