การร้อยไหมหนึ่งในเทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงและดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด แก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย เการ้อยไหมถือว่าเป็นหัตถการที่ราคาไม่สูง และเห็นผลรวดเร็วการดูแลตัวเองก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพักฟื้นนาน ๆ เหมาะกับสาว ๆ ยุคนี้ที่ต้องทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาพักหน้านาน แน่นอนว่าการร้อยไหมเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ ย่อมมีตัวเลือกให้คนไข้เยอะขึ้นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี ของผู้บริโภคที่มีสิทธิ์เลือกว่าจะทำร้อยไหมหน้าเรียวที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ?
เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
สถานพยาบาลควรเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานตามกฎกระทรวงสาธารณสุขมีการตรวจสอบสถานพยาบาลก่อนเปิด อุปกรณ์เครื่องมือที่พร้อมเพรียง ความสะอาดภายในคลินิกย่อมเป็นสิ่งที่ต้องคำนึง เพื่อลดการติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ การเช็คสถานพยาบาล ปกติหากทางคลินิกได้รับอนุญาตการเปิดแล้วจะมีเลขสถานพยาบาล 11 ตัว ได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข http://hssdemo.1mediasoft.net/
แพทย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
การร้อยไหมนั้นเป็นหัตถการที่ต้องดูแลโดยแพทย์เท่านั้น โดยปกติแพทย์จะต้องมีการเทรนเทคนิคการร้อยไหมแต่ละแบบซึ่งเทคนิคการร้อยแตกต่างกันไป และอัพเดทเทคนิคจากบริษัทไหมโดยตรง ไม่ใช้การร้อยไหมไว้ใต้ผิวเฉย ๆ เพราะหากร้อยไหมแล้วแต่ไม่ถูกชั้นผิว ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง และที่สำคัญก่อนทำหัตถการใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาเพื่อประกอบการตัดสินใจและทราบถึงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ไหมที่ใช้
ปัจจุบันมีไหมหลากหลายประเภทให้เราเลือกใช้เยอะมาก แต่ส่วนมากที่นิยมใช้ปัจจุบันเป็นไหมโพลีไดอ๊อกซาโนน (polydioxanone) PDO ซึ่งเป็นไหมที่นำมาเย็บหัวใจได้ ข้อดีคือโอกาสการแพ้ไหมน้อยมาก ๆ แต่ก็ยังแยกประเภทไปอีก
- เส้นไหมเรียบ (Mono threads)เป็นเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือปุ่ม หรือเกลียว ไหมชนิดนี้นิยมนำมาใช้กับบริเวณคอ หน้าผาก และใต้ตา เส้นไหมชนิดนี้จะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง
- เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads)เป็นเส้นไหมเส้นเดียวแต่มีเงี่ยงตลอดแนวไหม เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะด้านในชั้นผิวหนัง เงี่ยงมีประโยชน์ทำหน้าที่คล้ายโครงสร้างที่จะช่วยยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยาน คอลลาเจนจะถูกกระตุ้นให้มีการสร้างขึ้นใหม่รอบเส้นไหมและบริเวณเงี่ยง เส้นไหมชนิดนี้เหมาะกับการยกกระชับบริเวณคาง ปรับรูปหน้าให้เรียว
- เส้นไหมเกลียว (Screw threads)เป็นเส้นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน เส้นไหมชนิดนี้มีประโยชน์ช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่ง เส้นไหมเกลียวจะให้ผลแข็งแรงกว่าไหมเส้นเรียบ ส่วนใหญ่ไหมเกลียวเหมาะกับการยกชั้นผิวหนังที่หย่อนยานเพื่อปรับให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
การเลือกใช้วัสดุและชนิดของไหมสำคัญไม่แพ้ข้ออื่นเลย เพราะต่อให้หมอร้อยไหมเก่งแค่ไหนแต่หากใช้ไหมที่ไม่ได้คุณภาพก็ไม่เห็นผลเช่นกัน
มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
รีวิวการร้อยไหมซึ่งเป็นข้อมูลการประกอบการตัดสินใจอีกอย่างที่ดีมาก ๆ เนื่องจากเราจะได้ดูปัญหารูปหน้าซึ่งดูเคสคนไข้ที่มีปัญหาใกล้เคียงกับเรา หรือดูรีวิวเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงว่าผลลัพธ์ที่ออกมา
มีการติดตามผลการรักษา
หลังทำมีการติดตามผลหลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง ว่ามีอาการบวมไหม อักเสบไหม รวมถึงให้คำปรึกษาได้อย่างดี การร้อยไหมเป็นการดึงหน้าโดยมีเข็มใส่ไหมไปใต้ผิว อาจจะมีอาการบวมบ้าง มากน้อยไม่เท่ากัน โดยปกติจะอยู่ที่ 3-14 วัน จะเริ่มยุบบวมเข้าที่มากขึ้น จนเรียบเนียนเป็นปกติเอง และใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 วัน
การร้อยไหมนั้นไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป บางคนก็ไม่สามารถร้อยไหมได้ จึงอย่าลืมแจ้งแพทย์หรือพนักงานทุกครั้ง หากท่านมีโรคประจำตัวเบื้องต้นโรคประจำตัวที่ไม่ควรร้อยไหม มีดังนี้
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง
- โรคไวรัสตับอักเสบบี
- โรคไวรัสตับอักเสบ ซี
- โรค เอช ไอ วี (HIV)
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- มีภาวะติดเชื้อ
- มีประวัติการเป็นคีรอยด์ง่าย
หากท่านตรวจสอบเบื้องต้นที่เราแนะนำผ่าน ท่านก็สามารถเข้าไปปรึกษาสอบถามราคากับทางคลินิกก่อนตัดสินใจได้เลย
