ทำให้หน้าเรียว มีกี่วิธีทางการแพทย์ แล้วแบบไหนเหมาะสำหรับคุณ

ในปัจจุบันการปรับแต่งรูปหน้าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากสาว  ๆ  ที่มีปัญหาผิวหน้า และการทำหน้าเรียวในปัจจุบันก็มีหลายวิธี ทั้งการดึงหน้า การผ่าตัดใส่ซิลิโคน และการฉีดสารเติมเต็มชนิดต่าง  ๆ  ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าสาว  ๆ  เลือกได้สาว  ๆ  คงจะเลือกวิธีทำให้หน้าเร็วที่เห็นผลลัพธ์หลังการทำทันที และใช้เวลาพักฟื้นน้อยหรือไม่ต้องพักฟื้นเลย และวันนี้เรามีวิธีปรับรูปหน้าทำหน้าเรียวมาแนะนำเพื่อเป็นตัวช่วยให้สาว   ๆ  ได้เลือกวิธีที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ

วิธีการปรับรูปหน้าทำให้หน้าเรียวมีดังนี้

1.ไฮฟู

เทคนิคการทำหน้าเรียวที่ขึ้นชื่อว่าไม่เจ็บ ได้ผลไว คือการใช้คลื่นอัลตราซาวด์เข้มข้นสูง ส่งผ่านพลังงานเข้าไปยังชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อเดียวกับที่ทำศัลยกรรมดึงหน้า เมื่อชั้นเนื้อเยื่อได้รับการกระตุ้นจะมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มเต็ม หลังจากทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น ไม่เกิดอาการบวม ช้ำ แดง เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน มีไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า ผลของการรักษาจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 4-6 อาทิตย์ และคงผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานเป็นปี

ทำให้หน้าเรียว ด้วยวิธีไหนดี

2.เทอมาร์จ

เทคโนโลยียกกระชับผิว ทำหน้าเรียวด้วยการส่งคลื่นความถี่วิทยุ RF ส่งพลังเข้าไปยังชั้นผิวหนังระดับลึก เพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อสร้างคอลลาเจนใหม่มากขึ้น ระหว่างที่ทำหัตถการหมอผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจะคอยควบคุมความร้อนสลับเย็นให้คงที่ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด หลังทำเทอมาร์จผู้รับบริการจะรู้สึกได้โดยทันทีว่าริ้วรอยลดน้อยลง ผิวแข็งแรงขึ้น ทำหน้าเรียวเป็น v-shape มากเพิ่มขึ้น และที่สำคัญหลังจากทำเสร็จไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ทั้งเสริมสวย ช้อปปิ้ง บริหารร่างกาย แต่ก็อาจจะมีบางรายที่มีผิวแดงบางส่วน แต่ก็จะหายไปเองในเวลาอันรวดเร็ว

3.ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ใช้ฉีดเพื่อลดและจัดการกับปัญหาริ้วรอยบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า รวมถึงเติมเต็มจุดที่บกพร่อง เพื่อปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวได้ตามต้องการ โดยสารเติมเต็มดังกล่าวมีให้เลือกหลากหลายชนิด ที่นิยมแพร่หลายก็จะมีการใช้ไขมันตัวเอง คอลลาเจนจากสัตว์ หรือไฮยาลูโรนิก-แอซิด ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก หลังฉีดแล้วจะเห็นผลได้ทันที และเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออาการบวมน้ำหายไป ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ 6 เดือน หรือมากน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน หลังฉีดแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้าทาปาก หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ

4.ฉีดโบท็อกซ์

เทคนิคการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวที่นิยมทำกันมาก คือการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นสารสกัดโปรตีนธรรมชาติจากแบคทีเรีย มีคุณสมบัติช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกบริเวณต่าง ๆ ช่วยแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องบนใบหน้าได้ดี โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและก็ระบุตำแหน่งการฉีดอย่างเหมาะสม ซึ่งจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญชำนาญเป็นอย่างมาก จึงจะปรับรูปหน้าทำหน้าเรียวได้อย่างสวยงาม หลังฉีดโบท็อกซ์อาจจะต้องระวังอย่าจับหรือนวดบริเวณที่ฉีด โดยบางรายอาจจะมีรอยแดงบ้างบางส่วน แต่ว่าจะหายไปเองภายใน 1 วัน จากนั้นจะได้ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่อาทิตย์

5.ฉีดไหมไลโป

เหมาะสมมากสำหรับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม คาง เหนียง ทำให้หน้าดูกลมดูอ้วน การปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวที่มีปัญหาเหล่านี้สามารถปรับแต่งได้ง่าย โดยวิธีการฉีดไหมไลโป ซึ่งได้ผลลัพธ์ปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวพอ ๆ กับการร้อยไหม แต่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องพักฟื้น ไม่ทิ้งรอยบอบช้ำบวมแดงให้เห็น ตัวยาที่ใช้สกัดมาจากธรรมชาติมีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง ตัวเส้นไหมจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นเนื้อเยื่อ ช่วยทำให้ผิวยกกระชับ ลดอาการหย่อนคล้อยได้ดี ส่งผลให้ทำหน้าเรียวเล็ก ดูเป็น v-shape ตามแฟชั่น หลังฉีดไหมไลโปไม่จำเป็นที่ต้องพักฟื้น สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ ทั้งนี้แพทย์แนะนำว่าให้ดื่มน้ำเพิ่ม เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคการทำให้หน้าเรียว หากสาว  ๆ  ที่มีปัญหาผิวหน้าไม่ได้รูปหรืออยากทำหน้าให้เรียวขึ้นก็สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปคิดพิจารณาเพื่อปรับเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น และก่อนการทำคุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมและทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่คุณต้องการ